หลักการป้องกันปัญหายาเสพติด
หลักการป้องกันปัญหายาเสพติด
ควรมีจุดเน้นในการเสริมสร้างการป้องกันมิให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
และในทางกลับกันก็จะต้องลดปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการเสพยาเสพติด
(Hawkins, J.D. and others. 2002) สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เสพยาเสพติด
จากงานวิจัยต่างๆ พบว่า มักมีส่วนเกี่ยวข้องกับหลายปัจจัย อาทิ เช่น
ทัศนคติในทางลบหรือต่อต้านสังคม พฤติกรรมเบี่ยงเบนและที่ไม่เหมาะสมต่างๆ
ฯลฯ ในขณะที่ความรักความอบอุ่นจากบิดามารดาเป็นปัจจัยป้องกันที่สำคัญ
(Wills, T. and others. 1996)
ผลกระทบของปัจจัยเสี่ยงและป้องกันเหล่านี้จะมากหรือน้อยมักแปรผันไปตามอายุ
ของกลุ่มเป้าหมาย อาทิ ปัจจัยครอบครัวจะมีผลอย่างมากต่อเด็กอายุน้อย
ในขณะที่อิทธิพลของกลุ่มเพื่อนจะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อเยาวชน
(Dishion, T. and others, 1999; Gerstein, D.R. and Green, L.W.. 1993)
การเข้าแทรกแซงปัจจัยเสี่ยงจึงควรกระทำต่อปัจจัยสาเหตุ ตัวอย่างเช่น
การแทรกแซงเงื่อนไขเด็กที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวและเด็กกลุ่มที่ไม่สามารถควบ
คุมตัวเองได้
จะก่อให้เกิดผลกระทบมากกว่าการเปลี่ยนแปลงแนวทางการดำเนินชีวิตของเด็กให้
หนีห่างจากปัญหาแม้ว่าจะด้วยการเสริมพฤติกรรมทางบวกก็ตาม (Ialongo, N. and
others. 1991)
ในขณะที่ปัจจัยเสี่ยงและปัจจัยป้องกันจะมีผลต่อทุกกลุ่มประชากรแต่ขนาดผลของ
ที่เกิดขึ้นก็จะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับ
คุณลักษณะของกลุ่มเป้าหมายทั้งในแง่อายุ เพศ วัฒนธรรม กลุ่มชาติพันธุ์
และสภาพแวดล้อม (Beauvais, F. and others. 1996; Moon, D. and others.
1999)
หลักการป้องกันปัญหายาเสพติด
จะต้องรวมเอาการใช้ยาเสพติดทุกประเภทเข้าด้วยกัน
ไม่ว่าจะเป็นการเน้นย้ำยาเสพติดแต่ละตัวหรือบูรณาการเข้าด้วยกันก็ตาม
สิ่งเหล่านี้รวมถึงการใช้สารที่ถูกกฎหมายในขณะที่อายุยังน้อย (เช่น
บุหรี่และสุรา ฯลฯ) การเสพยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย (เช่น ไอซ์ กัญชา เฮโรอีน
ฯลฯ) และการใช้สารที่ถูกกฎหมายอย่างไม่เหมาะสม (เช่น สารระเหย
การใช้ยาที่แพทย์ไม่ได้สั่งใช้ รวมทั้งการใช้ยารักษาโรคที่ไม่ถูกวิธี ฯลฯ) (
Johnston, L.D. and others. 2002)
หลักการป้องกันปัญหายาเสพติด
จะต้องเน้นไปที่การจัดการปัญหายาเสพติดในชุมชน
การปรับเปลี่ยนปัจจัยเสี่ยงที่เป็นเป้าหมายหลักซึ่งอาจกำจัดให้หมดไปหรือทำ
ให้น้อยลง และการเสริมสร้างความเข็มแข็งให้กับปัจจัยป้องกัน(14)
หลักการป้องกันปัญหายาเสพติด
จะต้องดำเนินการให้เหมาะสมกับกลุ่มประชากรจำเพาะและปัจจัยเสี่ยงนั้นๆโดย
ต้องเหมาะสมกับอายุ เพศ และสังคมวัฒนธรรมชาติพันธุ์
อันจะนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิผล(Oetting, E. and others. 1997)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น